ฟอกสีฟัน ช่วยแก้ปัญหาสีฟันให้กลับมาสดใส ทำครั้งแรก ควรรู้อะไรบ้าง

- Teeth Whitening -

ปัจจุบันการ ฟอกสีฟัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่สามารถแก้ปัญหาสีฟันให้กลับมาสดใส โดยได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงสำหรับการฟอกสีฟันในคลินิก เชื่อว่าหลายคนที่อายุมากยิ่งขึ้นจะต้องพบเจอกับปัญหาสีฟันเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เคยฟันขาวกลายมาเป็นสีหม่นหมอง มีคราบสีน้ำตาล และทำให้ฟันเหลือง จึงทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลาพูดหรือเวลายิ้ม ดังนั้นวิธีการฟอกสีฟัน จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี สำหรับใครที่มีความสนใจต้องการทำครั้งแรก จะต้องทราบอะไรบ้าง ทางเราก็ไม่พลาดที่จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักการฟอกสีฟัน รวมถึงรายละเอียดอื่นๆ ที่ควรทราบ ดังต่อไปนี้ 

ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว คืออะไร

สำหรับการ ฟอกสีฟัน หรือการฟอกฟันขาว เรียกได้ว่าเป็นวิธีการรักษาที่สามารถช่วยทำให้ฟันที่มีสีคล้ำ สีเหลือง ให้กลับมามีฟันขาวขึ้น โดยการฟอกสีฟันจะนำน้ำยาฟอกสีฟัน Hydrogen peroxide มาทาบริเวณฟัน จากนั้นจึงทำการฉายแสง Cool Light LED หรือเลเซอร์ เพื่อให้น้ำยาฟอกฟันแทรกซึมลงไปผ่านชั้นผิวเคลือบฟัน และทำปฏิกิริยาภายในฟัน ก็จะช่วยทำให้ฟันสามารถกลับมาขาวใส โดยจะไม่ทำร้ายชั้นผิวเคลือบฟัน  เพียงแต่อาจมีการเสียวฟันเล็กน้อยหลังฟอก 1-2 วัน ระดับความขาวของการฟอกสีฟันขึ้นกับบุคคล บางคนขาวมากบางคนขาวน้อย ไม่สามารถระบุระดับความขาวที่แน่นอนได้ แต่ส่วนมากก็มักจะขาวมากกว่าฟันเดิม และความขาวจะคงตัวอยู่ช่วงเวลาหนึ่งก็จะมีการคล้ำของสีฟันขึ้นบ้าง คนไข้สามารถทำการฟอกสีฟันซ้ำได้เป็นระยะหากรู้สึกฟันเริ่มหมองคล้ำ

"ขาวได้ทันที ฟอกบ่อยได้ตามต้องการ"​

ข้อดีของการฟอกสีฟัน มีอะไรบ้าง

  • การฟอกสีฟันจะไม่ส่งผลอันตรายต่อโครงสร้างของฟัน และที่สำคัญจะไม่ทำให้ผิวของฟันเปราะบางลง
  • การฟอกสีฟันจะสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ ทั้งนี้ระดับความขาวก็ขึ้นอยู่กับระดับความเหลืองที่มีแต่เดิมด้วย
  • วิธีการฟอกสีฟันเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจ มีฟันขาว ช่วยเสริมบุคลิกทำให้น่ามองมากยิ่งขึ้น 

ข้อเสียของการฟอกสีฟัน

  • ในระหว่างการฟอกสีฟันหรือหลังทำ อาจจะทำให้ท่านรู้สึกมีอาการเสียวฟันตามมาได้ ซึ่งปกติแล้วอาการเสียวฟันเหล่านี้มักจะหายไปได้เองภายใน 48 ชั่วโมง 
  • ระดับความขาวของฟัน อาจจะคงอยู่แค่เพียงระยะสั้นๆ ประมาณ 6-12 เดือน
  • สำหรับใครที่มีวัสดุอุดเดิมอยู่ หรือมีการครอบฟันเดิม หากต้องการฟอกสีฟันอาจจะต้องมีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนให้มีสีที่เท่ากันกับฟันข้างเคียงภายหลังการฟอกสี 
ฟอกสีฟัน, teeth bleaching, whitening

ประเภทของการฟอกสีฟัน มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร

In-office Bleaching

ซึ่งเป็นประเภทของการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่คลินิก โดยจะมีการใช้เทคนิคของการฟอกสีฟันด้วยการใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นสูงร่วมกับการทำ Cool Light LED หรือเลเซอร์ ซึ่งวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะมีความปลอดภัยสูง ทุกขั้นตอนของการทำจะอยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ทั้งหมด ใช้ระยะเวลาทำไม่นานและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ แต่ระดับความขาวของสีฟันก็จะต้องขึ้นอยู่กับสภาพของฟันแต่ละบุคคลด้วย 

Home Bleaching

วิธีนี้สามารถที่จะฟอกสีฟันได้เองง่ายๆ ที่บ้าน แต่จะต้องเข้ามาพบทันตแพทย์ก่อนสำหรับครั้งแรกเพื่อที่จะเข้ามาพิมพ์ช่องปาก ทำถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล แล้วรับน้ำยาฟอกสีฟัน รวมถึงฟังคำแนะนำของทันตแพทย์แล้วนำไปใช้อย่างถูกวิธี สำหรับวิธีนี้ข้อดีก็คือสะดวกสบาย แถมมีราคาที่ถูกกว่า แต่จะใช้ระยะเวลาที่นานกว่า และจะต้องมีวินัยสูง หมั่นทำบ่อยๆ จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี

In-office assisted Bleaching

วิธีนี้เป็นการฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ ร่วมกับการฟอกสีฟันเองที่บ้าน สำหรับวิธีนี้มักจะใช้ในกรณีที่ฟันมีสีเข้มมากๆ ซึ่งทางทันตแพทย์จะมีการฟอกสีฟันให้กับทุกท่านก่อน และจะมีอุปกรณ์รวมถึงน้ำยาฟอกสีฟันให้ผู้รับบริการนำกลับไปทำเองต่อที่บ้าน 

Over-the-counter Bleaching

เป็นวิธีที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ โดยการหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับการฟอกสีฟันเอง ประกอบไปด้วยแถบการฟอกสีฟัน การใช้ยาสีฟันที่ช่วยฟันขาว น้ำยาบ้วนปากฟอกสีฟัน

Internal Bleaching

สำหรับวิธีนี้จะเป็นวิธีการฟอกสีฟันเฉพาะซี่ ซึ่งจะต้องมีการทำโดยทันตแพทย์ เนื่องจากเป็นวิธีการฟอกสีฟันที่มีการเปลี่ยนสี เนื่องจากฟันตาย มักจะมีการเปลี่ยนสีฟันเฉพาะซี่เท่านั้น

ฟอกสีฟัน, teeth bleaching, whitening

ฟอกสีฟันที่คลินิกมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร เลือกวิธีไหนดี

สำหรับการฟอกสีฟันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะมีด้วยกัน 2 รูปแบบหลักๆ ดังต่อไปนี้ 

การฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light

สำหรับวิธีการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น จะเป็นการใช้แสง LED ซึ่งจะมีการฉายลงไปบนหน้าฟันที่ได้มีการทาน้ำยาฟอกสีฟันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งแสงจะเป็นตัวเข้าไปช่วยกระตุ้นน้ำยาฟอกสีฟันขาวให้ทำงานดียิ่งขึ้น และให้เม็ดสีเหลืองมีการแตกตัวได้ดี เพิ่มความกระจ่างให้กับฟันได้ 

การฟอกสีฟัน ด้วยเลเซอร์

สำหรับการฟอกสีฟันด้วยเลเซอร์จะเป็นการใช้แสงเลเซอร์ไดโอด เพื่อเข้าไปช่วยกระตุ้นน้ำยาฟอกสีฟันขาวให้ทำงานดียิ่งขึ้น แตกตัวได้เร็วยิ่งขึ้น ช่วยทำให้น้ำยาฟอกสีฟันแทรกซึมเข้าไปบริเวณผิวฟันได้ดี สามารถขจัดคราบ รวมถึงขจัดเม็ดสีบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็ว 

หากถามว่าจะแนะนำวิธีการฟอกสีฟันแบบไหนดี ต้องขอแนะนำวิธีการฟอกสีฟันด้วยแสงเย็น Cool light LED เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถขจัดคราบฝังลึกบนผิวฟันได้อย่างรวดเร็วทันใจ มีความปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนทันที และที่สำคัญมีราคาถูกกว่าแบบอื่นๆ พร้อมทั้งใช้ระยะเวลาประมาณ 30 ถึง 40 นาทีเท่านั้น

ฟอกสีฟัน เหมาะกับใคร

  •  การฟอกสีฟัน มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสีฟัน อาทิ ฟันมีสีคล้ำ มีสีเหลือง ลักษณะเนื้อฟันไม่ขาวใส
  • การฟอกสีฟันเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในวัยทำงาน ผู้ที่จะต้องประกอบอาชีพโดยการใช้รอยยิ้ม ใช้การพูดคุย รวมถึงการติดต่อประสานงานกับผู้อื่นเป็นประจำ
  • ฟันตาย หรือฟันเปลี่ยนสีคล้ำหลังจากฟันที่ไม่มีชีวิตแล้ว หรือฟันที่ผ่านการรักษารากฟันมา
  • ผู้ที่ขาดความมั่นใจในรอยยิ้ม

ใครบ้างที่ไม่ควรฟอกสีฟัน

สำหรับวิธีการฟอกสีฟัน หรือการฟอกฟันขาว อาจจะไม่ได้รับผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป และไม่ใช่ทุกคนที่สามารถฟอกสีฟันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีภาวะดังต่อไปนี้

  • หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี เนื่องจากโพรงประสาทฟันจะมีการเจริญเติบโต ทำให้การฟอกสีฟันอาจจะเกิดความระคายเคือง
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา หรือผู้ป่วยโรคเหงือก
  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาอื่นๆ ในช่องปาก ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อขอคำแนะนำก่อนที่จะทำการฟอกสีฟัน เช่น ฟันผุ เสียวฟัน เป็นต้น

ฟอกสีฟันเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้จริงไหม

สำหรับวิธีการ ฟอกสีฟัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ ซึ่งผลลัพธ์ของการฟอกสีฟันจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับระดับสีที่เป็นอยู่ของฟัน อุปกรณ์และน้ำยาต่างๆ ที่ทางทันตแพทย์เลือกใช้ รวมถึงการดูแลสุขภาพช่องปาก อาทิ การเลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ทำให้เกิดคราบเหลือง รวมถึงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ซึ่งจะทำให้ฟันกลับมาคล้ำเร็วขึ้น

ฟอกสีฟัน, teeth bleaching, whitening

การฟอกสีฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้นมากแค่ไหน

หลังจากฟอกสีฟัน ระดับของสีฟันจะขาวมากขึ้นแค่ไหน ซึ่งระดับความขาวหลังฟอกสีฟันโดยทั่วไปจากขาวขึ้นประมาณ 3-5 เฉด ซึ่งระดับของความขาวขึ้นมากน้อยแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับสีเดิมของฟันรวมถึงปฏิกิริยาของการตอบสนองต่อน้ำยาฟอกสีฟัน

อาการหลังฟอกสีฟัน

สำหรับอาการหลัง ฟอกสีฟัน บางคนอาจจะมีอาการเสียวฟัน ซึ่งหากมีอาการเสียวฟันเรียกได้ว่าเป็นอาการปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกคนหลังฟอกสีฟัน แต่ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก็ได้มีการพัฒนาไปมาก จึงทำให้เกิดอาการเสียวฟันลดน้อยลง ปกติแล้วอาการเสียวฟันมักจะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง 

ผลข้างเคียงการฟอกสีฟัน

การฟอกสีฟันจะไม่ส่งผลอันตรายต่อโครงสร้างของฟัน และเป็นวิธีที่ไม่ได้ทำร้ายผิวฟันให้เปราะบางลง แต่อาจจะมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ในระหว่างทำ และหลังทำได้ โดยอาการก็มักจะหายไปเองได้ภายใน 1-2 วัน

ข้อควรปฏิบัติที่ต้องรู้หลังฟอกสีฟัน

  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หลังจากฟอกสีฟันประมาณ 1-2 สัปดาห์
  • ควรรักษาความสะอาดในช่องปาก โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกหลังจากการฟอกสีฟัน
  • หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบเหลือง เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะจะทำให้ฟันกลับไปเหลืองได้ และยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ฟันเป็นสีเหลืองได้ง่ายขึ้นด้วย
  • หลังจากได้รับการฟอกสีฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้วควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด 

ฟอกสีฟันอย่างไร ให้มีความปลอดภัย

สำหรับการ ฟอกสีฟัน ที่มีความปลอดภัยและได้รับผลลัพธ์ที่ดี ควรเลือกคลินิกทันตกรรมฟอกสีฟันที่ได้มาตรฐาน ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง มีผู้เข้าใช้บริการกับทางคลินิกอย่างต่อเนื่อง มีรีวิวจากผู้ใช้จริง และมีทันตแพทย์ที่มีความชำนาญ มีประสบการณ์เกี่ยวกับการฟอกสีฟัน รวมทั้งมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเท่านั้น และที่สำคัญหากไม่มั่นใจ ไม่ควรซื้ออุปกรณ์การฟอกสีฟันมาทำเองที่บ้าน เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก อาทิ การเสียวฟัน การระคายเคือง การอักเสบ รวมถึงขั้นอาจจะเกิดความเสียหายของโพรงประสาทฟันได้ 

จัดฟันอยู่ฟอกสีฟันได้ไหม

สำหรับใครที่ จัดฟัน อยู่โดยมีการติดอุปกรณ์ที่บริเวณหน้าฟัน จะไม่สามารถฟอกสีฟันได้ เพราะถ้าหากฟอกไปแล้ว แน่นอนว่าน้ำยาฟอกฟันจะไม่โดนในส่วนหน้าฟันที่มีการติดอุปกรณ์จึงทำให้ฟันไม่สม่ำเสมอได้ ทางที่ดีหากใครต้องการฟอกสีฟัน ต้องรอถอดอุปกรณ์หลังจากจัดฟันเสร็จถึงจะทำได้

ฟอกสีฟันต้องทำกี่ครั้ง

การ ฟอกสีฟัน จะต้องทำกี่ครั้ง? สำหรับการฟอกสีฟันครั้งแรกก็จะเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง ฟันขาวขึ้นหลังทำได้เลยทันที โดยความขาวขึ้นจะอยู่กับสีฟันเดิม โดยปกติมักจะสามารถขาวขั้น 2 – 3 ระดับจากสีฟันเดิม 

ฟอกฟันขาว ใช้เวลานานไหม

สำหรับวิธีการฟอกสีฟันใช้ระยะเวลาไม่นาน ประมาณ 30 ถึง 45 นาที ก็จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันที  

ฟอกสีฟันทำให้เนื้อฟันบางลงไหม

วิธีการ ฟอกสีฟัน ไม่ได้ทำให้เนื้อฟันบางลง เนื่องจากน้ำยาฟอกสีฟันจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับสีที่มีการสะสมภายในเนื้อฟันทำให้ขาวขึ้น 

ฟอกสีฟันเจ็บไหม

การฟอกสีฟันไม่เจ็บ แต่ขณะที่เข้ารับการฟอกสีฟัน หรือหลังจากฟอกสีฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจจะทำให้ท่านมีอาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ แต่อาการเสียวฟันมักจะหายได้เองภายใน 48 ชั่วโมง

ฟอกสีฟันอยู่ได้นานแค่ไหน

การฟอกสีฟันโดยทั่วไปแล้วจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ซึ่งจะต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา รวมถึงการรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มของแต่ละบุคคลด้วย 

สรุป

หลังจากได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับการ ฟอกสีฟัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับใครที่มีความสนใจ อยากจะฟอกสีฟัน เพื่อเป็นตัวช่วยขจัดปัญหาสีฟันเหลือง ฟันสีคล้ำ ไม่ขาวสดใส ไม่มีความมั่นใจขณะยิ้ม ให้กลับมามีรอยยิ้มที่สดใสมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง ควรต้องทำกับทางทันตแพทย์โดยตรง จะเป็นสิ่งที่ช่วยหลีกเลี่ยงความระคายเคืองเหงือก รวมถึงเนื้อเยื่ออื่นๆ ในช่องปากได้เป็นอย่างดี พร้อมเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงได้เลยทันที เฉดสีของฟันจะดูขาวขึ้นเมื่อเทียบกับสีฟันเดิมที่มีอยู่ ปกติทางแพทย์จะวัดค่าสีฟันก่อนทำเปรียบเทียบกับสีฟันหลังทำ เพื่อให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และที่สำคัญหลังจากได้รับการฟอกสีฟันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำให้กลับมามีฟันสีคล้ำ สีเหลือง อีกเช่นเดิม

Author

Share

บทความล่าสุด

เรื่องที่น่าสนใจ

รากฟันเทียม, สไมล์ดีไลท์, นนทบุรี

รากฟันเทียม ดียังไง ใส่แล้วเหมือนฟันธรรมชาติที่สุด

รากฟันเทียม เป็นชนิดของการทำฟันปลอมแบบติดแน่นเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปโดยที่ไม่มีการทำลายเนื้อฟันที่อยู่ข้างเคียง รากฟันเทียม แผลเล็ก เจ็บน้อย เหมือนฟันธรรมชาติมากที่สุด

รอยด่างขาว, white spot teeth, จัดฟัน

รอยขุ่นขาวระหว่างจัดฟันเกิดได้อย่างไร

รอยขาวขุ่นหรือจุดด่างบนฟันที่เกิดขึ้นระหว่างจัดฟันเป็นจุดแรกเริ่มของฟันผุที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยรอยขาวขุ่นที่เกิดขึ้นเกิดจากที่ผิวเคลือบฟันบางลงเพราะขาดแร่ธาตุ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีให้กับท่าน และเพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการเว็บไซต์ที่ตรงต่อความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการเก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

  • คุกกี้ประเภทการโฆษณา

    คุกกี้ประเภทนี้จะจดจำการตั้งค่าของท่านในการเข้าใช้งานหน้าเว็บไซต์ เพื่อตั้งค่า ปรับแต่ง และนำเสนอข้อมูลหรือโฆษณาให้เหมาะสมตรงตามความสนใจและความชื่นชอบของท่านมากยิ่งขึ้น

บันทึก